“ไวรัสโคโรนา” เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ที่พบในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจจากไวรัส เป็นไวรัสกลุ่มใหญ่ที่พบได้ทั้งในคนและในสัตว์ ซึ่งในการนี้มีประชากรชาวจีนกว่า 11 ล้านคน กำลังประสบปัญหาอยู่ ภายหลังมีการเก็บตัวอย่างไวรัสจากคนไข้นำไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ในเวลาต่อมาจีนและอนามัยโลก (WHO) เรียกโรคนี้ว่า ‘โรคปอดอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุ’ (pneumonia of unknown cause)
เริ่มระบาดในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2019 ในเมืองอู่ฮั่น เริ่มมีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนหลายราย โดยมีอาการไข้สูง ไอแห้ง ๆ อ่อนเพลีย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้าน ลูกจ้าง หรือลูกค้าที่เคยมาซื้อของที่ตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก ไก่ฟ้า งู เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่น ๆ ขณะนี้ตลาดดังกล่าวได้มีการจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และถูกปิดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
ดร.นพ.โสภณ ตอบว่า “ถ้าดูข้อมูลจากระบาดวิทยา จะเห็นได้ว่าเชื้อไวรัสโคโรนามีอยู่ 6 สายพันธุ์ดั้งเดิม โดยมี 2 ตัวที่รุนแรงคือซาร์สและเมอร์ส อีก 4 ตัวจะมีอาการไม่รุนแรงมาก เต็มที่จะเป็นเพียงไข้หวัด ขณะที่สายพันธุ์ใหม่จะอยู่ในระหว่างตรงกลาง ถ้าเรามีข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่อยู่ในมือครบถ้วน จึงจะสามารถประเมินได้ว่าจะรุนแรงระดับใด”
เมื่อเปรียบเทียบกับ ‘ซาร์ส’ จะพบว่าผู้ป่วยมีอาการป่วยและเสียชีวิตคิดเป็น 10% หรือ 1 ใน 10 ของผู้ป่วย ส่วน ‘เมอร์ส’ ผู้ป่วยมีอาการป่วยและเสียชีวิตคิดเป็น 30% หรือ 1 ใน 3 ของผู้ป่วย
“เมื่อเทียบสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในจีนที่มีผู้ป่วย 400 กว่าคน จะพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 9 รายต่างมีโรคประจำตัวทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเมื่อดูแบบคร่าวๆ แล้ว เปอร์เซ็นต์การป่วยและเสียชีวิตน่าจะไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ ทั้งนี้โรคที่เกิดขึ้นใหม่ๆ บนโลกใบนี้ยังไม่สามารถสรุปในทันที เพราะต้องรอข้อมูลประกอบที่ถูกต้องและครบถ้วน เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโรคอีกครั้ง
“ดังนั้นถ้าสรุปจากข้อมูลที่มีขณะนี้ โรคจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ดูแล้วน่าจะรุนแรงน้อยกว่าโรคซาร์สและเมอร์ส”
การเดินทางจากเมืองอู่ฮั่นมายังประเทศไทย มีสายการบินตรงมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ถึงกรุงเทพมหานคร และมีผู้โดยสารขาเข้าเฉลี่ยวันละ 1,200 คน• คนไทยเดินทางไปประเทศจีนประมาณปีละ 7 แสนคน และอยู่อาศัยในประเทศจีนประมาณ 12,000 คน โดยเป็นนักเรียนนักศึกษาประมาณ 2 ใน 3 ซึ่งเมืองอู่ฮั่นมีนักศึกษาไทยไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ส่วนคนจีนเดินทางมาประเทศไทยปีละประมาณ 10 ล้านคน จากประชากรประมาณ 1,400 ล้านคน
เชื้อไวรัสโคโรนามีระยะฟักตัวกี่วัน
จากข้อมูลที่กรมควบคุมโรคเทียบเคียงกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ดั้งเดิม เบื้องต้นประเมินว่าเชื้อสายพันธุ์ใหม่มีระยะฟักตัวระยะสั้น คือตั้งแต่ 2-14 วัน นั่นจึงเป็นสาเหตุที่มีการประกาศเตือนให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงอย่างเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ให้สังเกตอาการของตนเองเป็นเวลา 14 วันเพื่อเช็กร่างกายว่าป่วยหรือไม่
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนทั่วไปน่าจะแสดงอาการภายใน 1 สัปดาห์ แต่จะมีบางกรณีที่แสดงอาการเร็วกว่าหรือช้ากว่านั้น จึงตั้งกรอบเวลา 14 วัน เพื่อให้สังเกตอาการ แต่ถ้าตรวจสอบแล้วมีอาการเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที พร้อมกับให้รายละเอียดประวัติการเดินทาง ซึ่งจะทำให้แพทย์วินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมในเวลาอันรวดเร็ว
ขึ้นชื่อว่าไวรัส ไม่มียารักษาจริงหรือไม่
โดยทั่วไปเชื้อไวรัสจะถูกรักษาตามอาการ เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา แต่จะมีเชื้อไวรัสบางตัวที่สามารถใช้ยารักษาได้ ยกตัวอย่างเช่น เชื้อไวรัสเฮชไอวีก็มียารักษา
“เท่าที่ทราบมา ทางนักวิทยาศาสตร์และทีมแพทย์พยายามดูว่ายาต้านไวรัสตัวใดสามารถนำมาใช้กับไวรัสโคโรนาได้ ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเราน่าจะได้เห็นข้อมูลว่ามียาตัวใดสามารถรักษาได้”
หากท่านมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หายใจเหนื่อย ภายใน 14 วัน หลังกลับมาจากเมืองอู่ฮั่นประเทศจีน โปรดไปพบแพทย์และยื่นบัตรคำแนะนำด้านสุขภาพสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย กับแพทย์ผู้ทำการรักษาพร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง ท่านอาจได้รับเชื้อโรคก่อนเดินทางมายังประเทศไทย กรุณาแจ้งรายละเอียดต่างๆกับแพทย์ผู้ทำการรักษา เช่น อาการป่วย วันที่เริ่มมีอาการป่วย วันเดินทางมาถึงประเทศไทย สถานที่พัก เพื่อแพทย์จะได้วินิจฉัยได้ถูกต้องและรักษาได้ทันท่วงที แพทย์ผู้ทำการรักษาจะรายงานต่อหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการป้องกันควบคุมโรคโดยเร็ว หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมควบคุมโรค, the standard, ประชาชาติธุรกิจ